Uncategorized

Japan expo 2019 ; THE SIXTH LIE

Day 1

วันนี้ เรจิ อาราตะ และริวเซย์ เดินแบบจ้า ริวเซย์เวทีแรกสงสัยจะตื่นเต้น เดินเร็วเชียว นี่ก็ไปยืนชูป้าย THE SIXTH LIE ตะโกนเรียกเรจิ ฮีเห็น ฮีมอง แต่เก็กขรึมอยู่ ทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็ยอมโบกมือให้นิดนึง

พอตอนไลฟ์นะ ยิ้มเก่ง หันไปบ้ายบายก็ยิ้ม ละมุนละไมไปหมด ยิ่งใส่สูทวันนี้นะ หล่อมากกกก

ตอนก่อนไลฟ์ก็แว๊บไปคุยกับอาราตะมานิดหน่อย ที่หลังเวทีคิวถ่ายรูปริวเซย์กับนุ้งเรย์ยาวมาก อาราตะเหลือสองคน ส่วนเรจิไม่เห็น พอถึงคิวนี่

อาราตก็ถามว่าจะถ่ายรูปมั้ย อ่อ.. ไม่ถ่ายค่ะ มาคุย ฮาาา ก็ชวนนางคุยไป ถามเรื่องมีท เรื่องชุด นู้นนี่นั่น อาราตะบอกว่าอยากจะลองเปลี่ยนดูมั่ง เลยใส่สูทกัน จนฮีต้องไปเตรียมตัว

พอขึ้นเวทีจริง เรย์เหลือแต่เสื้อเชิ้ต ริวเซย์เปลี่ยนเป็นเสื้อยืด กางเกงยีน แต่ใส่สูทมา อาราตะใส่ชุดเดิมตอนที่คุยกัน ส่วนเรจิมาเต็มทั้งเชิ้ตทั้งสูท ลุคโฮสท์มาก หล่อจ้าพ่อคุณ เอาไป 100/10

เซตลิสท์โหดมาก

เปิดมาด้วย Singularity ก็กระโดดเหนื่อยแล้ว มา Go on ต่อ เหมือนจะได้พักเหรอ ไม่ ต่อด้วย Hibana นี่ก็โยกมันส์มาก ต่อด้วย Fall in the sky, Wake up your fire และปิดท้ายด้วย Endless night

แอบคิดว่าจะเล่น Next trier ไม่ก็ Setsuna ด้วย แต่ก็ไม่เล่นจ้า เสียดาย

สรุปคือกระโดดทุกเพลง ร้องทุกเพลง

อาราตะแรงดีมาก กระโดดตลอด เอนเตอร์เทนดี ยื่นไมค์มาให้เราร้องด้วย ตอนนั้นหน้าเราเลวร้ายมาก ล้องงง

เรจิรอบนี้เดินมาหาบ่อย ยิ้มให้บ่อย เหมือนจะไม่ค่อยเขินแล้วนิดนึง โบกมือให้ก็ยิ้ม เรียกก็ยิ้ม เนี่ย แล้วจะให้หันไปหาคนอื่นได้ยังไง! ท่าเล่นกีต้าร์พ่อคุณก็เท่เหลือเกิน

ริวเซย์ น้องพยายามมาเล่นกับแฟนๆ แต่ไปได้ฝั่งเดียวเพราะสายแจ็คสั้น เดินมาจนสายหลุดยังไม่รู้ตัว นว้องงง ยิ้มเก่ง วิ้งเก่ง ตกเก่ง

ส่วนเรย์ลุกไปไหนไม่ได้ ตีกลอง ฮาาาา

รอบนี้มีแฟนเซอร์วิสนะ อาราตะไปนัวกับริวเซย์ แล้วเรจิก็ไปเล่นข้างๆ ริวเซย์

รอบนี้ไม่มีซาวด์ EDM แต่เอาอยู่กันหมด สนุกมากกกกกกกก ไม่ต่างจากไลฟ์ปีที่แล้วเลย

ไลฟ์เสร็จก็ไปมีต มาคุยต่อ ขอถ่ายเซลฟี่ก็ได้ เซอร์วิสแฟนดีมาก กันเองสุดๆ น่ารักทุกคน คุยเก่งง ริวเซย์เจอหน้าปุ๊บ ส่งวิ้งให้ก่อนเลย โอ้ยตาย ส่วนลุงเรจิก็พยายามคีพคูล คือเห็นว่าร้อนอะ แต่ยังใส่สูท คือเปียกทะลุสูท ชวนคุยก็ตอบบ้าง แต่พอยื่นเหล้าขาวนี่ รีบตอบเชียวว่าชอบเหล้า “เหล้าแรงนะ” “ซาเกสุกิ!” พร้อมทำหน้าสนใจมาก คิดว่าคืนนี้จะเปิดกินเลยมั้ย ให้ทาย..

อาราตะนี่พอให้ของปุ๊บแกะปั๊บ กระดกกระทิงแดงไปเลย พร้อมลองเทียบกางเกงช้าง แถมแกะขนมกินเลย ลองแมลงทอดไป บอกชอบมาก อร่อย แต่ริวเซย์บอกเผ็ด ฮาา เรจิและเรย์ขอผ่าน ไม่กินจ้า

เราก็ยื่นคุย รอจนแฟนๆ หมด ส่งกลับตอนสี่ทุ่ม

—————

แถม

ตารางไลฟ์ของ THE SIXTH LIE กับ Metropolis de Onelia ติดกัน เราเลยเทแม่มัต (มาซาโตะ ex. SuG) มาหา THE SIXTH LIE เพราะเราไม่เคยฟังเพลงวงแม่เลย แถมวันอาทิตย์แม่ขึ้นก่อน ค่อยไปฟังก็ได้

แต่..

ระหว่างที่กำลังมีต THE SIXTH LIE อยู่

แม่ลงจากเวทีมาขายกู๊ดแล้ว แต่ไม่มีแฟนๆ ตามมาเลย เรากับเพื่อนก็หันไปมองแม่ แอบคิดว่าแม่ต้องจำได้ เลยตัดสินใจเดินไปหา ไปชวนคุย แล้วก็ซื้อ Towel ของวงมา สีสวยมาก 600 บาท ไม่แพงเลย

คุณโกว เป็นมนุษย์ที่ถ่ายรูปไม่ขึ้นจริงๆ ตัวจริงหล่อมากกกกก อมก เคอวินก็คุยเก่ง ฮีถามก่อนด้วยว่าทุกคนเข้าใจภาษาญี่ปุ่นใช่มั้ย แล้วก็คุย แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยซื้อกู๊ดวง

นี่ก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้มาดูนะ แล้วก็แอบถามตารางว่าแม่ว่างตอนไหน เดี๋ยวจะเอาขนมมาให้

แม่ก็บอกว่า ไลฟ์เสร็จ มาขายกู๊ดก่อน แล้วค่อยไปมีตอีกที เราก็โอเคๆ กลับก่อนนะคะ ก็บ๊ายบายกันไป

(เรากับเพื่อนกะว่าคงมามีตแม่ไม่ได้เพราะต้องดูซิกลาย)

****************************

Day 2

เมื่อวานเราซื้อเสื้อของ THE SIXTH LIE มา ก็นัดกับเพื่อนว่าใส่มากันวันนี้ แล้วบังเอิญเจอแม่มัตหลังเวทีจ้าาา

ก็เลยเอาขนมไปให้ ยิ้มแห้งเรย เมื่อปีที่แล้วยังมามีตแม่มัตอยู่เลย หนูป่าวนอกใจแม่นะคะ ฮืออ

พอถึงเวลาก็ไปรอหน้าเวทีฝั่งคุณโกว

ก่อนวงเล่น น้องสาวเคอวิน ที่เราเข้าใจว่าเป็นสตาฟเฉยๆ ก็เดินมาทักทายพวกเรา มาฮายยยย ใส่ โห จำกันได้ขนาดนี้..

พอทุกคนขึ้นเวที คุณโกวจ้า ชี้มาที่พวกเราเลย แล้วทักทาย จรัมหนูได้ด้วยยย ชิบหายแร้วว

ใช่ค่ะคุณ เคอวินก็มาด้วยอีกคน หน้าแห้งเรยย จำกันได้ขนาดนี้ต้องไปแร้วมั้ยย ฮาาา

แต่ว่าวันนี้แฟนๆ ดูเยอะ ไม่ไปก็ไม่น่าไปเป็นอะไร เลยว่าจะไปซื้อกู๊ดแล้วกลับมาดู THE SIXTH LIE

พอไปซื้อ คือคนเต็มเลย ทุกคนดูยุ่งๆ เราเลยซื้อกู๊ดแม่มาแล้วก็จับมือแม่ ฮืออ นุ่มและอุ่นมาก หนูขอโทษที่ไม่ได้ไปมีต

กลับมาที่ THE SIXTH LIE

รู้ว่ามามีเวลาเพิ่ม 5 นาที คิดว่าอาจจะได้ฟัง Setsuna ไม่เลยจ้า.. เซตลิสท์ตามเดิม

ลากท่อน โวว โอว โอวว ใน Wake up your fire แทน ให้แฟนๆ มีส่วนร่วม

วันนี้เรจิเปลี่ยนเสื้อข้างในเป็นเสื้อยืดและใส่สูททับ หล่อเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนแนว

น้องริวเซย์วันนี้ต่อสายแจ็คยาวขึ้นแล้ว เดินได้ทั่วเวทีแล้ว นว้องงงง เดินมาอ่อย มาวิ้ง มายิ้มให้ฝั่งเราด้วย บ่อยมาก มาเล่นกล้องกับแฟนที่ถ่ายวิดีโอ

อาราตะก็ด้วย แล้วก็เดินมาให้ร้องอีกแล้ว เรจิก็เดินมาบ่อยด้วยเหมือนกัน

วันนี้ทุกคนแรงเยอะกว่าเมื่อวานอีก ไปเอาแรงมาจากไหนกันนนนน

ส่วนเราก็โยกหนักกว่าเมื่อวาน แถมเฮดแบงด้วย ยังปวดคอมาจนตอนนี้

และวันนี้ก็มีคนมาดูเยอะกว่าเมื่อวานอีก ตอนมีตคนก็เลยเยอะมากไปด้วย จากเมื่อวานที่ได้คุยเยอะ ได้เซลฟี่ แต่วันนี้หนุ่มๆ ดูเหนื่อย และแฟนแถวยาวมาก

ก่อนจะเริ่มแจกไซน์ น้องเรย์เปลี่ยนเสื้อ เลยได้เห็นน้องเรย์เปลือยท่อนบน ขาวมากกกก

ริวเซย์ก็เหงื่อเต็มหน้าเลย พวกเราเลยให้พัดลมไปใช้ แล้วก็เอาทิชชูให้

พอเริ่มไซน์เลยเป็นคนถือพัดลมให้น้องแทน

เราร้อนได้ แต่ผู้ชายจะร้อนไม่ได้นะจ๊ะ

เรากะว่าจะให้หลังๆ แต่คนเยอะมาก เราเลยรอจน พวกนางไปขึ้นงานพิธีปิดแล้วกลับมาใหม่ แล้วก็รีบเอาของไปให้

บอกอาราตะว่าซื้อส้มตำมาให้แล้วนะ เพราะเมื่อวานบอกอยากกิน แล้วก็ซื้อขนมมาให้ทุกคนเลย แล้วก็ซื้อหมวกกระต่ายที่กระดกหูได้มาให้

ให้ทุกคนใส่เลย อาราตะก็ใส่ให้ทันที

นุ้งเรย์บอกว่ากำลังอยากได้พอดีเลย

ริวเซย์บีบเล่นตลอด ดูชอบมาก คาวาอี้

ส่วนลุงหมีเรจิ คิดว่าจะไม่ยอมใส่ คือเตรียมให้อาราตะบังคับละ แต่ลุงใส่จ้าาาา ปริ่มมม

รักนะคะ คนดีของหนู ฮืออ 😭💕

แล้วก็รอจนจบมีต หนุ่มๆ ดูเหนื่อยกันมากเลย เราก็รอส่งกลับเหมือนเดิม ทุกคนคือเก็บของเสร็จเดินตัวปลิวเลย ทิ้งน้องเรย์ไว้กับผจก.ช่วยกันแพคของที่เหลือ ทำไมทำกับเพื่อนแบบนี้คะ 😂😂

ก่อนกลับก็แอบถามเรจิมาว่าปีนี้ไปมาเลเซียมั้ย เรจิบอกไปแน่นอน ส่วนน้องเรย์บอกว่า 50-50

แต่กลับมาแล้วเสิร์ชหาราคาตั๋วรอเลย 55555

เป็นสองวันที่เหนื่อยและแฮปปี้มากกกกกกกกก

มีความสุขมากที่ปีนี้ก็ได้เจออีก

ใช้โควต้าออกกำลังกายหมดแล้ว ขอพักหนึ่งอาทิตย์ คือกระโดดตลอดไลฟ์ หนักยิ่งกว่าคาร์ดิโอ แถมเดินทั้งวัน ตอนนี้ปวดไปทั้งตัว

กลับมาเราลงรูปนี้พร้อมเขียนแคปชั่นเป็นภาษาไทย แล้วเรจิมาไลค์ หวังว่าลุงจะไม่กดแปล.. เพราะมันแปลมั่วมาก ฮาาาาาาา

ขอปิดบล็อกด้วยคลิปนี้ แอทแทคแรงมาก 💗💗 😵

diary

[you&me diary] New year vacations

Happy New Year นะคะ

ปีใหม่นี้เราไปไหนไม่ได้เลย เพราะว่ารับปริญญาวันที่ 2 มกราคม .. เราต้องไปซ้อมที่นครปฐมตั้งแต่วันที่ 25 – 27 ธันวาคมเลย

ดังนั้นเราเลยต้องอยู่กรุงเทพฯ ไปโดยปริยาย

แต่ดีหน่อยที่ปีนี้แฟนเรามาหาถึงไทยเลย ก็เลยใช้เวลาช่วงปีใหม่ด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็เที่ยวในกรุงเทพฯ กัน เลยคิดว่าอยากจะเขียนไว้เป็นความทรงจำ แล้วก็อยากจะบ่นนิดๆ หน่อยๆ ว่าทำไมเที่ยวไทยถึงแพงขนาดนี้

• 29 ธ.ค.

เป็นวันที่แฟนที่ไม่ได้เจอกันกว่า 5 เดือนของเราบินจากญี่ปุ่นมาไทย ไฟลท์ถึงประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง แต่กว่าจะเคลียร์นู้นนี่นั่นเสร็จ กว่าจะมาถึงโรงแรมก็ปาไปเที่ยงคืนแล้ว

เราพักที่ The aim house bangkok โรงแรมนี้อยู่ใกล้สถานีกรุงธนบุรี เดิน 5 นาทีก็ถึง (อาจจะไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ)

วันนี้เป็นวันเกิดของแฟนด้วย เราให้ของขวัญเป็นกระเป๋าของ Jim Thompson กับน้ำหอม Dior Sauvage EDT กลิ่นนี้หอมมากกกกกกกกก ชอบมาก ถึงจะเป็น EDT แต่กลิ่นติดทนทั้งวันเลย และเราก็ดมแฟนทั้งวัน ฮา แนะนำกลิ่นนี้จริงๆ เรายังอยากได้มาใช้เอง ไว้จะไปซื้อ

• 30 ธ.ค.

วันนี้ไปบ้านจิมทอมป์สันกัน เพราะแฟนเราชอบแบรนด์นี้มาก เราก็เล่าให้ฟังว่ามีพิพิธภัณฑ์ด้วยนะ ฮีก็อยากมา

ที่พิพิธภัณฑ์บ้านไทยของจิมทอมป์สันมีไกด์พาชมบ้านหลายภาษาเลย ตอนแรกเราคิดว่าจะเลือกภาษาอังกฤษ เพราะเรากับแฟนจะได้เข้าใจทั้งคู่ แต่คุณแฟนเลือกภาษาญี่ปุ่น เราก็โอเค ถือซะว่าได้ฝึกภาษา

ซึ่งโดยรวมเราก็เข้าใจอยู่นะ ตอนทัวร์เสร็จพี่ไกด์ก็มาขอโทษเราที่พูดสองภาษาให้ไม่ได้ จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย เพราะเราเลือกมากรุ๊ปนี้เอง แต่พี่เค้าบรรยายสนุกดี ฟังง่ายด้วย

ตอนเย็นก็ไปตลาดนัดรถไฟรัชดา เพราะคุณแฟนอยากไปถ่ายรูปและอยากไปไนท์มาร์เก็ต

ยอมรับว่ามองจากมุมสูง ตลาดสวยมากจริงๆ ถ่ายรูปออกมายังไงก็สวย แต่พอลงไปเดินแล้วจะตาย คนเยอะมาก เบียดมาก ซึ่งเราไม่ชอบที่ที่คนเยอะๆ (เว้นคอนเสิร์ต)

• 31 ธ.ค.

วันนี้เราต้องกลับบ้าน เพราะนัดที่บ้านไว้ว่าจะไปกินข้าวด้วย บวกกับแม่ก็อยากเจอแฟน เลยพาไปหา

พอเสร็จจากที่บ้าน เราก็ออกมาเค้าท์ดาวน์กัน มีเพื่อนมาด้วยอีกสามคน ตกลงว่าจะไป CTW กัน

พอไปถึง คนเยอะมาก อยู่เวทีนอกก็เฉยๆ

แล้วเพื่อนก็ชวนไปข้าวสาร เรายังไงก็ได้ก็เลยนั่งตุ๊กๆ กันไป แต่รถติดมาก กว่าจะถึงข้าวสารคือ อีก 15 นาที เที่ยงคืนและคนแน่นกว่า ctw จ้า พลาดมาก แต่ก็ลองเบียดเข้าไปดู ยังไม่ทันถึงเวทีก็มีเสียง แฮปปี้นิวเยียร์ .. ช่างเป็นปีใหม่ที่ อืมมมมม

ตอนมาว่ายากแล้ว ตอนกลับยากกว่า หารถกลับโรงแรมยากมาก ทั้งๆ ที่อยู่ฝั่งธนฯ เหมือนกัน

คือเราต้องเดินไปเป็นชั่วโมงกว่าจะได้รถ คือเดินไปไกลมากด้วย จำไม่ได้ว่าเดินไปถึงไหนเหมือนกัน สุดท้ายก็มีตุ๊กๆ ไปส่ง แต่ส่งไม่ถึงโรงแรม เพราะไอคอนสยาม รถติดมากจ้า ก็ลงเดินอีกเป็นกิโล เย้

• 1 ม.ค.

เป็นปีใหม่ที่ตื่นสายและนอนอืดอีกอยู่ดี วันนี้ต้องไปนครปฐม เพราะเราจะรับปริญญา

ออกจากโรงแรมก็บ่ายโมงแล้ว หาข้าวกิน เลยจะไปไอคอนสยาม เข้าปุ๊บ คนเยอะทุกชั้น ลาก่อย ไม่กินแล้ว ไปนครปฐมเลยแล้วกัน

ถึงตอนเย็นพอดี สายรหัสเราก็ชวนออกมากินข้าวกัน ก็ได้กินเป็นมื้อแรกและมื้อสุดท้ายของวัน

• 2 ม.ค.

วันรับปริญญา ต้องตื่นเช้ากว่าตอนวันซ้อมอีก เพราะเราเข้าหอประชุมเช้า ก็ตื่นมาตอนตีสาม แล้วให้แฟนนอนต่อไป ค่อยออกมาหาเราตอนกลางวันแทน

ตอนแรกคิดไว้ว่าจะกลับสักบ่าย 2 แต่ไปๆ มาๆ กลับ 4 โมงเพราะรอเพื่อนมาหา กว่าจะถึงบ้าน อาบน้ำ ก็หมดไปอีกวัน

ก่อนกลับโรงแรมก็แวะไปกินซูชิเดน แฟนก็บ่นๆ ว่าทำไมที่ไทยแพงขนาดนี้

• 3 ม.ค.

วันนี้ไปอยุธยากัน เพราะแฟนอยากขี่ช้าง เลยนั่งรถไฟไปกัน เที่ยวละ 15 บาท ต่อคน ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ หวานเย็นกันไป

เนื่องจากยังไม่ได้กินข้าว ก็เลยซื้อข้าวผัดกะเพราทีีขายบนรถ 20 บาท เผ็ดมากกกก แฟนกินไปน้ำหูน้ำตาไหล วงวาร

พอถึงอยุธยาก็จ้างรถพาเที่ยว ทั้งวัน 1000 บาทถ้วนอยากไปไหนลุงคนขับก็พาไป เริ่มยากไปวัดใหญ่ชัยมงคลก่อน คนต่างชาติเสียค่าเข้า 50 บาทมั้ง ไม่แน่ใจ

จากนั้นก็ไปตลาดน้ำอโยธยากัน ที่นี่มีให้ขี่ช้างด้วย เรทคือ ครึ่งชั่วโมง 1000 บาท ต่อคน เจอราคานี้เข้าไปคือซีดเลย นี่มันแพงขนาดนี้เลยเหรอ จริงๆ เราไม่ค่อยอยากขี่ด้วย สงสารน้อง แต่แฟนอยากลองสักครั้ง เลยให้แฟนจ่ายไป

ราคานี้มีได้รับรูปถ่ายฟรี และพนักงานพูดญี่ปุ่นได้เกือบทุกคน

ระหว่างที่นั่งบนหลังช้าง ควาญช้างก็ถามว่าอยากถ่ายรูปมั้ย เขาลงไปถ่ายให้จากข้างล่าง แล้วให้แฟนเราลองมาขี่คอช้างดู เสร็จแล้วก็นั่งกลับ พอใกล้จะถึงควาญช้างก็ทวงทิป ซึ่งเราว่าราคารอบนึง 2000 ครึ่งชั่วโมงเนี่ย มันก็แพงมากแล้วนะ ยังจะต้องให้ทิปอีกเหรอ แต่สุดท้ายก็ให้ไป 100 นึง แต่เขาไม่พอใจบอกคนละ 100 ไม่ได้เหรอ.. คือแบบ จุดนี้ไม่ประทับใจมากๆ

พอลงจากช้างก็ไปเดินตลาดกันต่อ ตลาดน้ำอโยธยา คนไทยเข้าฟรี ต่างชาติเสีย 200 บาทจ้า แต่ได้นั่งเรือฟรี ถ้าคนไทยนั่งเสีย 10 หรือ 30 เนี่ยแหละ

แล้วตอนอยู่ตรงที่ขี่ช้าง เขาก็ขายแพ็คเกจมาตลาดน้ำด้วยนะ คนละ 200 คือแบบถ้าตอนนั้นซื้อด้วยนี่คงแบบ โอยยยย

ในตลาดไม่มีอะไรมาก อาจจะเพราะช่วงปีใหม่ และไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ เราเคยมาตอนเสาร์อาทิตย์ มีร้านเปิดเยอะกว่านี้ และมีโชว์ด้วย แต่วันนี้ดูไม่ค่อยมีอะไร

แต่ร้านน้ำมะม่วงปั่นอร่อย ไปกินกันได้ถ้าใครแวะไป มะม่วงสมูทตี้โยเกิร์ต

พอเสร็จจากตลาดก็ไปวัดอื่นต่อ จนเย็นแล้ว ลุงคนขับรถก็แนะนำว่าไปกินข้าวมั้ย มีร้านแนะนำ ก็เลยไปดู อยากกินกุ้งเผา

ไปถึงคืออาหารแพงมาก เจอราคากุ้งนี่ซีดเลย แต่อยากกิน เลยสั่งไซส์ 4 มา ราคา 2700 จ้า แต่ได้มาสี่ตัว ก็ยังแพงอยู่ดี ฮืออ แต่ก็อร่อยดี

พอกินเสร็จก็กลับมากทม.กันด้วยรถไฟ ขากลับนี่ยืนตลอดทางเพราะคนเยอะมาก

• 4 ม.ค.

วันนี้ได้เที่ยวันสุดท้ายแล้ว ก็เลยเที่ยวกทม.กันอีก ตารางค่อนข้างแน่นเหลือเกิน 5555

เช้าไปวัดปากน้ำกัน ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตก็สวยจริงๆ ประทับใจ

ต่อจากวัดก็ไปหาข้าวกินกัน แฟนอยากกินข้าวมันไก่ร้านเรือนต้น จานละ 280 บาท แต่ให้เยอะมาก เรากินคนเดียวไม่หมด แงงง เสียดาย แต่อร่อยมากจริงๆ มีโอกาสจะไปกินอีก

เสร็จจากกินข้าว ก็ไปนวดกันต่อ แฟนพาไปร้านชื่อ Raintree spa อยู่ที่สุขุมวิทซอย 11

เลือกแพคเกจ Relax กันไปโดนไปคนละ 1600

ตอนแรกจะเป็นนวดเท้าก่อน เกือบชั่วโมงได้ เราหลับไปตื่นนึง พอเสร็จก็โดนปลุก ให้ไปเปลี่ยนชุดเตรียมนวดน้ำมัน เพิ่งเคยครั้งแรก เขินมาก ต้องถอดหมดเลย แต่เขามีกางเกงในให้

นวดแรกๆ เจ็บมาก พอเริ่มชินก็สบาย อันนี้นวดทั้งตัว ยิ่งตอนนวดหัวนี่ชอบมาก

พอเสร็จก็เปลี่ยนชุด จ่ายเงิน ก่อนกลับมีชาให้ดื่มด้วย อร่อยมาก รีแลกซ์มากจริงๆ

ชาสีแดงอร่อย ส่วนสีข้าวเหมือนน้ำผลไม้ เปรี้ยวๆ หน่อย มีวุ้นด้วย

เสร็จจากนวดก็ทุ่มกว่าแล้ว เลยไปต่อที่ตึกมหานครกัน เพราะเราเคยเปรยๆ ว่าอยากไป

ราคาบัตร 1050 บาท รวมคูปองเครื่องดื่ม อยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ แฟนเราบอกว่าชมวิวที่ญี่ปุ่นก็ราคาประมาณนี้ อืม ถ้างั้นถือว่าแพงมั้ยนะ ฮา

แต่สำหรับเรา เราว่าแพง เพราะรู้สึกอยู่ได้ไม่คุ้มเท่าไหร่ แต่วิวกลางคืนสวยมากนะ มีแต่ชาวต่างชาติไปกัน

เราขึ้นไปได้แปบนึงฝนก็ลงเม็ด เลยอยู่ตรงจุดที่เป็นพื้นกระจกไม่ได้ แงๆ ได้ถ่ายรูปมานิดนึง แต่ถ่ายยากมาก รูปไม่ค่อยสวยเลย ถ่ายสวยแต่วิว แงง

รูปล่างนี่ถ่ายจากชั้น 74 เป็นชั้นก่อนขึ้นไปดาดฟ้า 75

พอลงมาก็ไปตลาดนีออนกันต่อ เพราะวันก่อนนั่งรถผ่านตอนจะไปข้าวสาร แฟนเห็นนางก็อยากมา

เราขึ้นตุ๊กๆ จาก mbk 180 บาท มาถึงหน้าตลาดเลยที่นี่ของแพงมาก ไม่ค่อยเจอคนไทยอีกเช่นกัน แต่คนไม่เยอะเท่ารัชดา ก็เดินๆ ดูของแล้วก็กลับ

ขากลับนี่แย่กว่าขามา นั่งตุ๊กๆ ไปลงสถานีชิดลม คือใกล้มาก นิดเดียว แค่ข้ามสะพานไป แต่โดนไป 150 จ้า ฮือออออ ขูดรีดเว่อร์

เรื่องตลกของทริปปีใหม่นี้คือ เราไม่รู้ว่าโรงแรมอยู่ใกล้สถานีกรุงธนบุรี ก็เลยเดินข้ามสะพานไปขึ้นสถานีสะพานตากสินตลอด จนวันก่อนสุดท้ายลองนั่งมาลง แล้วคิดว่าคงไกล เลยเรียกแท็กซี่ ปรากฎว่า 35 บาท วันสุดท้ายเลยลองเดินไปแทน แปบเดียวถึงแล้ว แงงง

• 5 ม.ค.

วันนี้แฟนต้องกลับไฟลท์เช้า นี่เลยต้องแหกขี้ตาไปส่งด้วย นางก็บ่นๆ เรื่องรีฟันด์แท็ค ที่ไทยต้องไปเอาคืนที่สนามบิน แต่ขั้นตอนยุ่งยากมาก ต้องมีตราปั้มจากตม.ด้วย แต่นางไม่ได้มา สุดท้ายก็เลยไม่ได้ เพราะจะขึ้นเครื่องไม่ทัน จริงๆ ถ้าเราแยกราคาแบบที่ญี่ปุ่นก็ดีนะ สะดวกดี ต่างชาติก็ไม่ต้องจ่ายแท็คตั้งแต่ที่ร้านค้าเลย ไม่เสียเวลาไปรีฟันด์ที่สนามบินด้วย

สุดท้าย แฟนเราทำวิดีโอสั้นๆ สำหรับทริปนี้ขำๆ นางถ่ายแต่เรา แถมขึ้นต้นคลิปว่ากรุงเทพ แต่ในคลิปมีทั้งอยุธยาและนครปฐมด้วย เราถาม นางก็บอกว่าเออน่า เหมือนๆ กัน

แอบเขินหน่อยๆ ที่มีแต่เรา ฮาาา

จะได้เจอกันเมื่อไหร่นะ

พอยูกลับไป มันก็เหงาขึ้นมาแปลกๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ทนได้แท้ๆ

อยากเจอแล้ว …